ผลบอลเมื่อคืน ยูโร 2012 : เวลส์ 0-4 เดนมาร์ก ยูโร 2024 27 มิ.ย. 2021
ดอลเบิร์กแจ้งเกิด! ซัดเบิ้ล 'โคนม' โคตรแรงถีบเวลส์ร่วง 4-0 ทะลุ 8 ทีม
แคสเปอร์ ดอลเบิร์ก ที่ได้โอกาสออกสตาร์ตเป็นตัวจริง แจ้งเกิดเลย เมื่อจัดการยิง 2 เม็ดจากลูกยิงไกลช่วงครึ่งแรก ก่อนรับส้มหล่นจากเนโก วิลเลี่ยมส์ กดตุงตอกอีกดอกแล้ว โยอาคิม เมห์เล และมาร์ติน เบรธเวต บวกท้ายเกมอีกคนละลูก พา เดนมาร์ก ถล่ม เวลส์ ยับเยิน 4-0 ผ่านเข้าไปรอเจอฮอลแลนด์ หรือ เช็ก ในรอบก่อนรองชนะเลิศ
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รอบ 16 ทีม
สนาม โยอัน ครอยฟฟ์ อารีน่า
เสาร์ที่ 26 มิถุนายน 2564
กรรมการ แดเนี่ยล ซีเบิร์ต
เวลส์
0
4
เดนมาร์ก
0-1 แคสเปอร์ ดอลเบิร์ก 27'
0-2 แคสเปอร์ ดอลเบิร์ก 58'
0-3 โยอาคิม เมห์เล 87'
0-4 มาร์ติน เบรธเวต 90+3'
เวลส์ มีปัญหาตำแหน่งเดียวคือเอธาน เอ็มบาดู ที่ติดโทษแบนจากใบแดง ตำแหน่งอื่นไม่มีปัญหา แกเร็ธ เบล และอาร่อน แรมซี่ย์ คือแกนหลักของทีม ด้านเดนมาร์ก ไม่มีคริสเตียน อีริคเซ่น ที่กลับมาลงสนามไม่ได้แล้ว ขณะที่ยุสซุฟ โพลเซ่น แนวรุกหายหน้าไปแบบไม่ทราบสาเหตุ
โดยแมตช์นี้เป็นการเจอกันหนแรกของทั้งสองทีมนับตั้งแต่ที่นักเตะแดนโคนม เบียดชนะ 2-1 ในศึกเนชั่นส์ ลีก เมื่อปี 2018 ส่วนสถิติการเจอกัน 10 เกมหลังนั้น ยังเป็นเดนมาร์ก ที่ชนะ 6 แต่ก็แพ้ไป 4 หนเรียกว่าสูสีเหมือนกัน
โดยแมตช์นี้เป็นการเจอกันหนแรกของทั้งสองทีมนับตั้งแต่ที่นักเตะแดนโคนม เบียดชนะ 2-1 ในศึกเนชั่นส์ ลีก เมื่อปี 2018 ส่วนสถิติการเจอกัน 10 เกมหลังนั้น ยังเป็นเดนมาร์ก ที่ชนะ 6 แต่ก็แพ้ไป 4 หนเรียกว่าสูสีเหมือนกัน
ดอลเบิร์กทักทาย
เดนมาณ์กได้ลองส่องประตูครั้งแรกของเกมเป็น ดอลเบิร์กทดลองส่องไกลกว่า 25 หลานอกกรอบเขตโทษแต่บอลยังโด่งออกหลังไปไกลไม่ได้ลุ้นอะไร
10'

โปรเบลซัดหลุดเสาเสียววาบ
โอกาสทองของเวลส์ที่น่าได้ประตูขึ้นนำ เดนมาร์กไปปล่อยให้ เบลลากบอลจี้เข้าหากรอบเขตโทษก่อนตะบันด้วยซ้ายระยะ 20 หลาบอลพุ่งหนีแคสเปอร์ไปแล้วแต่พุ่งหลุดเสาไกลไปชนิดได้ลุ้น
12'
เวลส์ขึงเกมบุก
โปรเบล คราวนี้สลับมาอยู่ด้านซ้ายแล้วได้ลองส่องอีกหนหนึ่งแต่คราวนี้บอลหลุดออกหลังไป โดยก่อนหน้านั้นแรมซี่ย์ก็ส่องไกลไปติดบล็อคเหมือนกัน
18'
เจมส์ซัดไม่ผ่านแคสเปอร์
ยังคงเป็น เวลส์ที่คุมเกมได้ดีกว่าแล้วมีโอกาสเรื่อยๆ คราวนี้สลับเป็น เจมส์ ลองส่องจากนอกกรอบเขตโทษด้านซ้ายบอลพุ่งตรงกรอบแล้วแต่แคสเปอร์พุ่งเซฟไม่มีกระฉอก
27'
เสียบเสา!ดอลเบิร์กส่องไกลโคนมนำ 1-0
แต่กลายเป็นเดนมาร์ก ได้ประตูขึ้นนำก่อนจากการยิงเข้ากรอบหนแรก ดอลเบิร์กรับบอลมาจากแดมส์การ์ดก่อนลากหนีตัวประกบแล้วอัดด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษบอลพุ่งเรียดหนีมือของวอร์ดเข้าไปซุกก้นตาข่ายทางขวามือ 1-0!!!

38'
โรเบิร์ตส์เดี้ยงส่งน้องเนโกลงแทน
เวลส์มีปัญหาแล้ว โรเบิร์ตส์พยายามสับหน้าตั้งขึ้นมาก่อนยืดขาสุดไปเกี่ยวบอลแล้วเหมือนกล้ามเนื้อกระตุกต้องให้หมอลงมาดูอาการก่อน สุดท้ายเล่นต่อไม่ไหวให้เนโก วิลเลี่ยมส์ลงมาแทน

40'
มัวร์เหวี่ยงศอกโดนเหลืองจนได้
เกมต้องหยุดลงมาอีก มัวร์กองหน้าร่างใหญ่กระโดดเทคตัวโขกก่อนจังหวะลงไปศอกหลังใส่เคียร์ที่ยืนค้ำอยู่ กรรมการแจกใบเหลืองทันทีทำให้เขาพลาดลงสนามในเกมหน้า
45+1'
เมห์เลเติมซัดเสาแรกไม่ผ่านวอร์ด
สตรายเกอร์ ครอสบอลจากริมเส้นด้านขวาแล้วลึกเลยมาทางเสาไกล เมห์เลเติมขึ้นมาจับบอลก่อนยิงยัดมุมแคบไปเลยแต่ วอร์ด ไม่ยอมปัดบอลทิ้งออกหลังไปก่อน
HALF TIME
48'

น้องเนโกพลาด!เคลียร์ไม่ดี ดอลเบิร์กขอบคุณ 2-0
ลงมาไม่ทันไร เดนมาร์ก ได้ประตูหนีห่าง เป็นความผิดพลาดของเนโก วิลเลี่ยมส์ที่สกัดบอลเปิดของเบรธเวตไม่ดี เตะไปติดตัวของดอลเบิร์กเกี่ยวได้ก่อนตะบันด้วยขวาเปรี้ยงเดียวผ่านวอร์ดเข้าไปไม่เหลือ 2-0!!!
53'
เบลโขกยังไม่ตรง
วิลเลี่ยมส์พยายามแก้ตัวเติมขึ้นมาเปิดสุดเส้นหลังด้านขวาได้สวยแล้ว เบลพยายามกระโดดขึ้นโขกแต่โดนไม่ดีบอลไม่ตรงกรอบ
59'
เจมส์ซัดติดบล็อคคริสเตนเซ่น
เจมส์รับบอลที่เพิ่อนโขกตั้งมาให้ก่อนจับลงนิ่งๆ แล้วยิงด้วยขวาแถวๆ จุดโทษ แต่บอลพุ่งไปชนตัวของคริสเตนเซ่นที่ขวางทางเอาไว้อยู่
74'
เคียร์เจ็บอันเดอร์เซ่นลงแทน
เกมต้องหยุดลงอีกเมื่อ เคียร์มีปัญหาบาดเจ็บแล้วพยายามฝืนสุดท้ายเล่นต่อไม่ไหวต้องเปลี่ยนเอาโยอาชิม อันเดอร์เซ่น ลงสนามมาเล่นเกมรับแทนในช่วงท้ายเกม
82'
เมห์เลโฉบยิงเสาแรกแฉลบบล็อค
เดนมาร์กสวนกลับมาเกือบได้ประตูอีก เมห์เลไหลออกทางขวาให้ เบรธเวตบรรจงเปิดกลับมาทางเสาแรกให้ เมห์เลโฉบเข้ามายิงแล้วบอลแฉลบออกทางเสาแรก
87'

เมห์เลเติมมายิง!เดนมาร์กสบาย 3-0
เดนมาร์ก มาบวกประตูที่สามจนได้ เมห์เล เติมมาด้านขวาเหมือนเดิมก่อนเกี่ยวบอลลงในกรอบเขตโทษแล้วซ้ายด้วยซ้ายเต็มข้อบอลพุ่งแสกหน้าวอร์ดเข้าไปไม่เหลือ 3-0
90'

วิลสันแดง!
ช่วงก่อนจบเกม แฮร์รี่ วิลสันไปเสียบด้านหลังตัดเกมโยอาคิม เมห์เล กรรมการแจกใบแดงไปเรียบร้อย
เบรธเวตอีกดอก!โคนมถล่ม 4-0
ก่อนจบเกม เบรธเวตมายิงเข้าไปอีกตุง โดยตอนแรกกรรมการให้ล้ำหน้า แต่ VAR ดึงคืนมาให้เป็นประตูทำให้จบเกมด้วยสกอร์ 4-0






ตารางคะแนน
2025-2026
| ทีม | แข่ง | คะแนน | |
|---|---|---|---|
| 1 | อาร์เซนอล | 9 | 22 |
| 2 | บอร์นมัธ | 9 | 18 |
| 3 | สเปอร์ส | 9 | 17 |
| 4 | ซันเดอร์แลน� | 9 | 17 |
| 5 | แมนเชสเตอร์ | 9 | 16 |
| 6 | แมนเชสเตอร์ | 9 | 16 |
| 7 | ลิเวอร์พูล | 9 | 15 |
| ดูทั้งหมด | |||
2025-2026
| ทีม | แข่ง | คะแนน | |
|---|---|---|---|
| 1 | บุรีรัมย์ ยู | 8 | 22 |
| 2 | แบงค็อก ยูไน | 9 | 20 |
| 3 | ราชบุรี มิตร | 9 | 19 |
| 4 | การท่าเรือ เ | 9 | 16 |
| 5 | บีจี ปทุม ยู� | 9 | 14 |
| 6 | เชียงราย ยูไ | 9 | 13 |
| 7 | ประจวบคีรีข� | 9 | 13 |
| ดูทั้งหมด | |||
2025-2026
| ทีม | แข่ง | คะแนน | |
|---|---|---|---|
| 1 | บาเยิร์น มิว | 8 | 24 |
| 2 | RB ไลป์ซิก | 8 | 19 |
| 3 | สตุ๊ตการ์ต | 8 | 18 |
| 4 | ดอร์ทมุนด์ | 8 | 17 |
| 5 | เลเวอร์คูเซ� | 8 | 17 |
| 6 | ไอน์ทรัค แฟร | 8 | 13 |
| 7 | ฮอฟเฟ่นไฮม์ | 8 | 13 |
| ดูทั้งหมด | |||
2025-2026
| ทีม | แข่ง | คะแนน | |
|---|---|---|---|
| 1 | นาโปลี | 8 | 18 |
| 2 | โรม่า | 8 | 18 |
| 3 | เอซี มิลาน | 8 | 17 |
| 4 | อินเตอร์ มิล | 8 | 15 |
| 5 | โบโลญญ่า | 8 | 14 |
| 6 | โคโม | 8 | 13 |
| 7 | อตาลันต้า | 8 | 12 |
| ดูทั้งหมด | |||
2025-2026
| ทีม | แข่ง | คะแนน | |
|---|---|---|---|
| 1 | เรอัล มาดริด | 10 | 27 |
| 2 | บาร์เซโลน่า | 10 | 22 |
| 3 | บียาร์เรอัล | 10 | 20 |
| 4 | เอสปันญ่อล | 10 | 18 |
| 5 | แอตเลติโก มา | 9 | 16 |
| 6 | เรอัล เบติส | 9 | 16 |
| 7 | ราโย บาเยกาโ | 10 | 14 |
| ดูทั้งหมด | |||
2025-2026
| ทีม | แข่ง | คะแนน | |
|---|---|---|---|
| 1 | ปารีส แซงต์ � | 9 | 20 |
| 2 | ล็องส์ | 9 | 19 |
| 3 | โอลิมปิก มาร | 9 | 18 |
| 4 | โอลิมปิก ลีย | 9 | 18 |
| 5 | ลีลล์ | 9 | 17 |
| 6 | โมนาโก | 9 | 17 |
| 7 | สตารส์บูร์ก | 9 | 16 |
| ดูทั้งหมด | |||
Sexy Room
ดูทั้งหมดMotor Zone
ดูทั้งหมด
1 สัปดาห์ มาแล้ว
views: (148)
1 สัปดาห์ มาแล้ว
views: (128)






